ในการค้นหาข้อมูลด้วย Search Engine ส่วนใหญ่แล้วปัญหาที่ผู้ใช้งานทั่วไปมักจะพบเห็น หรือประสบอยู่เสมอๆก็คงจะหนีไปไม่พ้นข้อมูลที่ค้นหาได้มีขนาดมากจนเกินไป ดังนั้นเพื่อ ความสะดวกในการใช้งานคุณจึงน่าที่จะเรียนรู้เทคนิคต่างๆเพื่อช่วยลดหรือจำกัดคำที่ค้น หาให้แคบลงและตรงประเด็นกับเรามากที่สุด
- เลือกรูปแบบการค้นหาให้ตรงกับสิ่งที่คุณต้องการมากที่สุด ส่วนจะเลือกใช้วิธีไหนก็ตามแต่คุณจะเห็นว่า เหมาะสม ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณต้องการจะค้นหาข้อมูลที่มีลักษณะทั่วไป ไม่ชี้ เฉพาะเจาะจง ก็ควรเลือกบริการสืบค้นข้อมูลแบบ Index อย่างของ yahoo เพราะ โอกาสที่จะเจอนั้น เปอร์เซ็นต์สูงกว่าจะมานั่งสุ่มหาโดยใช้วิธีแบบ Search Engine
- ใช้คำมากกว่า 1 คำที่มีลักษณะเกี่ยวข้องกันช่วยค้นหา เพราะจะได้ผลลัพท์ที่มีขนาด แคบลงและชี้เฉพาะมากขึ้น (ย่อมจะดีกว่าหาคำเดียวโดดๆ)
- ใช้บริการของผู้ให้บริการเฉพาะด้าน เช่นการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องราวของ ภาพยนตร์ก็น่าที่จะเลือกใช้ Search Engine ที่ให้บริการใหล้เคียงกับเรื่องพวกนี้ เพราะผลลัพท์ที่ได้น่าจะเป็นที่น่าพอใจกว่า
- ใส่เครื่องหมายคำพูดครอบคลุมกลุ่มคำที่ต้องการ เพื่อบอกกับ Search Engine ว่าเรา ต้องการผลการค้นหาที่มีคำในกลุ่มนั้นครบและตรงตามลำดับที่เราพิมพ์ทุกคำ เช่น "free shareware" เป็นต้น
- การขึ้นต้นของตัวอักษรตัวเล็กเท่ากันหมด Search Engine จะเข้าใจว่าเราต้องการ ให้มันค้นหาคำดังกล่าวแบบไม่ต้องสนใจว่าตัวอักษรที่ได้จะมีขนาดเล็กหรือใหญ่ ดังนั้นหากคุณต้องการอยากที่จะให้มันค้นหาคำตรงตามแบบที่เขียนไว้ก็ให้ใช้ตัว อักษรใหญ่แทน
- ใช้ตัวเชื่อมทาง Logic หรือตรรกศาสตร์เข้ามาช่วยค้นหา มีอยู่ 3 ตัวด้วยกันคือ - AND สั่งให้หาโดยจะต้องมีคำนั้นๆมาแสดงด้วยเท่านั้น! โดยไม่จำเป็นว่าจะต้องติดกัน เช่น phonelink AND pager เป็นต้น - OR สั่งให้หาโดยจะต้องนำคำใดคำหนึ่งที่พิมพ์ลงไปมาแสดง - NOT สั่งไม่ให้เลือกคำนั้นๆมาแสดง เช่น food and cheese not butter หมายความว่า ให้ทำการหาเว็บที่เกี่ยวข้องกับ food และ cheese แต่ต้องไม่มี butter เป็นต้น
- ใช้เครื่องหมายบวกลบคัดเลือกคำ + หน้าคำที่ต้องการจริงๆ - (ลบ)ใช้นำหน้าคำที่ไม่ต้องการ () ช่วยแยกกลุ่มคำ เช่น (pentium+computer)cpu
- ใช้ * เป็นตัวร่วม เช่น com* เป็นการบอกให้หาคำที่มีคำว่า com ขึ้นหน้าส่วนด้านท้ายเป็น อะไรไม่สนใจ *tor เป็นการให้หาคำที่ลงท้ายด้วย tor ด้านหน้าจะเป็นอะไรไม่สนใจ
การค้นหาขั้นพื้นฐาน (Basic Search)
ระบบสืบค้นข้อมูล คือ เครื่องมือหรือโปรแกรมที่ช่วยเหลือในการสืบค้นข้อมูลสารสนเทศผ่านระบบเครือข่าย ซึ่งสามารถสืบค้นได้ทั้งข้อมูลที่เป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ โดยใช้สืบค้นข้อมูลจากทุกคำของข้อมูลจริง (Full Text Search) สนับสนุนการสืบค้นโดยกำหนดเงื่อนไขในรูปแบบต่างๆมากมาย ก่อนเริ่มต้นการใช้งานระบบสืบค้นข้อมูล ผู้ใช้งานควรทำความรู้จักกับส่วนประกอบต่างๆของแต่ละหน้าจอก่อน โดยเริ่มจากส่วนของการค้นหาข้อมูลขั้นพื้นฐาน (Basic Search) ดังนี้
ส่วนประกอบต่างของ Basic Search
A ช่องเติมคำที่ต้องการค้นหา : สำหรับเติมคำสำคัญ (Keywords) ที่ท่านต้องการค้นหา
B หมวดการค้นหา : ใช้สำหรับแยกหมวดหมู่ของเอกสารที่ต้องการค้น
C ลิ้งค์ไปยังหน้าค้นหาขั้นสูง: สำหรับค้นหาข้อมูลโดยระบุเงื่อนไขที่มีลักษณะเฉพาะเจาะจงมากขึ้น
D ลำดับเลข : แสดงเลขลำดับของผลการค้นหา
E หัวเรื่อง : แสดงชื่อหัวเรื่องของข้อมูล ผู้ใช้สามารถ เข้าไปดูรายละเอียดของข้อมูลจริงได้ โดยการคลิกที่หัวเรื่อง ระบบก็จะทำการเชื่อมโยงไปยังหน้าเอกสารจริง
F ที่อยู่ของเอกสาร : แสดงที่อยู่ (URL) ของเอกสารที่ระบบค้นพบ
G ตัวอย่างของคำที่ค้นพบ : แสดงตัวอย่างของข้อมูลที่ระบบค้นพบ พร้อมทั้งเน้นคำสำคัญด้วยตัวอักษรสี เพื่อให้สะดุดตา
H เปอร์เซนต์ของคำที่ค้นพบในเอกสาร : ระบบจะคำนวณโดยคิดจาก (จำนวนคำที่พบในเอกสารนั้น / จำนวนคำที่มากที่สุดที่พบในเอกสาร)*100
I แสดงจำนวนเพจ:จะทำการแสดงสถานะการแสดงในหน้านั้นการแสดงหน้านั้นๆ
J หน้าที่ถูกเก็บไว้ : เมื่อคลิกที่นี่ระบบจะแสดงหน้าจอของเอกสารที่ถูกเก็บไว้ในระบบ
K ขนาดของไฟล์ข้อมูล : แสดงขนาดของไฟล์ข้อมูล
L จำนวนที่ค้นพบ : แสดงสรุปผลการค้นหา โดยบอกถึงช่วงของข้อมูลในหน้าปัจจุบัน จำนวนทั้งหมดที่ค้นพบ และเวลาที่ใช้ในการค้นหา
B หมวดการค้นหา : ใช้สำหรับแยกหมวดหมู่ของเอกสารที่ต้องการค้น
C ลิ้งค์ไปยังหน้าค้นหาขั้นสูง: สำหรับค้นหาข้อมูลโดยระบุเงื่อนไขที่มีลักษณะเฉพาะเจาะจงมากขึ้น
D ลำดับเลข : แสดงเลขลำดับของผลการค้นหา
E หัวเรื่อง : แสดงชื่อหัวเรื่องของข้อมูล ผู้ใช้สามารถ เข้าไปดูรายละเอียดของข้อมูลจริงได้ โดยการคลิกที่หัวเรื่อง ระบบก็จะทำการเชื่อมโยงไปยังหน้าเอกสารจริง
F ที่อยู่ของเอกสาร : แสดงที่อยู่ (URL) ของเอกสารที่ระบบค้นพบ
G ตัวอย่างของคำที่ค้นพบ : แสดงตัวอย่างของข้อมูลที่ระบบค้นพบ พร้อมทั้งเน้นคำสำคัญด้วยตัวอักษรสี เพื่อให้สะดุดตา
H เปอร์เซนต์ของคำที่ค้นพบในเอกสาร : ระบบจะคำนวณโดยคิดจาก (จำนวนคำที่พบในเอกสารนั้น / จำนวนคำที่มากที่สุดที่พบในเอกสาร)*100
I แสดงจำนวนเพจ:จะทำการแสดงสถานะการแสดงในหน้านั้นการแสดงหน้านั้นๆ
J หน้าที่ถูกเก็บไว้ : เมื่อคลิกที่นี่ระบบจะแสดงหน้าจอของเอกสารที่ถูกเก็บไว้ในระบบ
K ขนาดของไฟล์ข้อมูล : แสดงขนาดของไฟล์ข้อมูล
L จำนวนที่ค้นพบ : แสดงสรุปผลการค้นหา โดยบอกถึงช่วงของข้อมูลในหน้าปัจจุบัน จำนวนทั้งหมดที่ค้นพบ และเวลาที่ใช้ในการค้นหา
กลยุทธ์และเทคนิคการค้นสารสนเทศ
หมายถึง วิธีการต่างๆที่ใช้ประกอบในการสร้างประโยคการค้น เพื่อให้ได้สารสนเทศที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด แบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ
• เทคนิคการสืบค้นแบบง่าย (Simple search)
• เทคนิคการสืบค้นขั้นสูง (Advanced search)
เป็นวิธีการสืบค้นสารสนเทศโดยใช้คำโดดหรือคำผสมเพียง 1คำ ในการสืบค้นข้อมูลโดยไม่ต้องสร้างประโยคคำค้นที่ยุ่งยาก ซับซ้อน ทางเลือกในการสืบค้นที่สำคัญ คือ ชื่อผู้แต่ง ชื่อเรื่อง หัวเรื่อง คำสำคัญ
1.1 เทคนิคการสืบค้นแบบง่าย (Simple search)
1) ชื่อผู้แต่ง (Author)
สามารถใช้ชื่อบุคคล กลุ่ม บุคคล หรือหน่วยงาน/องค์กร ที่่แต่ง หรือ เขียนหนังสืิอนั้นๆ
การสืบค้นมีหลักการ ดังนี้
ผู้แต่งคนไทย
- ค้นที่ชื่อของบุคคลนั้น ๆ
- หากมี ยศ บรรดาศักดิ์ หรือฐานันดรศักดิ์ ให้ค้นจากชื่อ
- ชื่อที่มีสมณศักดิ์ ให้ค้นตามสมณศักดิ์นั้นๆ
ตัวอย่าง
ศ. นายแพทย์ประเวศ วะสี = ประเวศ วะสี
ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช = คึกฤทธิ์ ปราโมช,ม.ร.ว.
คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา = กษมา วรวรรณ ณ อยุธยา, คุณหญิง
พระพรหมคุณากรณ์ = พระพรหมคุณากรณ์(ป.ปยุตโต)
พระมหาสมปอง = พระมหาสมปอง ตาลปุตโต
ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช = คึกฤทธิ์ ปราโมช,ม.ร.ว.
คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา = กษมา วรวรรณ ณ อยุธยา, คุณหญิง
พระพรหมคุณากรณ์ = พระพรหมคุณากรณ์(ป.ปยุตโต)
พระมหาสมปอง = พระมหาสมปอง ตาลปุตโต
ผู้แต่งชาวต่างประเทศ ให้ค้นที่ชื่อสกุล
เจ. เค. โรวลิ่ง = โรวลิ่ง, เจ.เค.
Hillary J. Clinton = Clinton, H. J.
Barack Obama = Obama, B.
ผู้แต่งที่เป็นหน่วยงาน / องค์กร
- ค้นที่ชื่อหน่วยงานนั้น
- กรณีที่มีทั้งหน่วยงานใหญ่ และหน่วยงานย่อย ให้ค้นที่ชื่อหน่วยงานใหญ่ก่อน
- กรณีที่เป็นชื่อย่อ ให้ค้นที่ชื่อเต็ม
ตัวอย่าง อ.ส.ม.ท. ค้นด้วยคำว่า งค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย
2) ชื่อเรื่อง (Title) สืบค้นจากชื่อทรัพยากรสารสนเทศ
3) คำสำคัญ (Word / Keyword )
คือ คำ/ กลุ่มคำ วลี ที่ใช้แทนความหมายของเนื้อเรื่องที่ต้องการค้น มีข้อควรพิจารณา คือ
บางครั้งเรื่องที่ค้นอาจไม่ตรงกับความต้องการ เนื่องจากการพ้องรูป หรือเป็นคำว้างมากเกินไป
ตัวอย่าง
AIDS Acquired immune deficiency syndrome
HIV ภูมิคุ้มกันบกพร่อง เอดส์ โรคเอดส์
HIV ภูมิคุ้มกันบกพร่อง เอดส์ โรคเอดส์
DNA Deoxyribonucleic acid สารพันธุกรรม ดีเอ็นเอ
4) หัวเรื่อง (Subject)
หมายถึงคำหรือวลีที่กำหนดขึ้นเพื่อแทนเนื้อหาของหนังสือ หรือทรัพยากรสารสนเทศนั้นๆ สามารถค้นที่คำหรือวลีที่เป็นชื่อบุคคล ชื่อประเภทของหน่วยงาน สัตว์ พืช สิ่งของ ฯลฯ อาจมีการแบ่งย่อยลงสู่เรื่องเฉพาะมากขึ้น โดยคั่นด้วยเครื่องหมาย –(hyphen)หรือ ,(comma)
เป็นการสร้างประโยคคำค้นที่มีความซับซ้อนมากขึ้น แต่ทำให้ได้ข้อมูลที่ตรงกับความต้องการมากขึ้นมี 3 เทคนิค คือ
- เทคนิคตรรกบูลีน (Boolean logic)
- เทคนิคการตัดคำ(Truncation)
- เทคนิคการจำกัดคำค้น (Limit search)
1) เทคนิคตรรกบูลีน (Boolean logic)
สืบค้นโดยอาศัยตัวกระทำ 3 ตัว คือ AND, OR, NOT
- AND ใช้เชื่อมคำค้นเพื่อจำกัดขอบเขตการค้นให้แคบลง
- OR ใช้เชื่อมคำค้นเพื่อขยายขอบเขตการค้นให้กว้างขึ้น
- NOT ใช้เชื่อมคำค้นเพื่อจำกัดขอบเขตการค้นให้แคบลง
2) เทคนิคการตัดคำ (Truncation)
เป็นเทคนิคที่ช่วยในการสืบค้นให้ได้ข้อมูลที่ กว้างขึ้น ครอบคลุมมากขึ้น โดยการละข้อความบางส่วนของคำ และใช้สัญลักษณ์แทน อาจเป็นสัญลักษณ์ # หรือ ? หรือ $ ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดและ
ความสามารถของระบบ เช่น Librar#,Model*,Teach$, etc.
3) เทคนิคการจำกัดคำค้น (Limit search)
เป็นเทคนิคการจำกัดการค้นให้แคบลง โดยกำหนดเขตข้อมูลที่ต้องการสืบค้นร่วมกับคำค้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดและความสามารถของระบบที่
สืบค้น เช่น การกำหนดให้ระบุปีพิมพ์ของข้อมูลที่ต้องการค้น หรือการกำหนดภาษาของเอกสาร เช่น internet and la = English